ไขข้อข้องใจสำนักตั้งเอง
เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียระหว่างการตั้งสำนักเองและสำนัก npc
สำหรับจอมยุทธหลายๆคนที่ยังสับสนกับเส้นทางการเล่นมังกรหยกออนไลน์ ระหว่างการออกไปตั้งสำนักเองหรือไปเข้าสำนักผู้เล่น หรือจะอยู่ในสำนัก npc ต่อไป คำถาม-คำตอบต่อไปนี้คงช่วยเป็นข้อมูลในการตัดสินใจได้นะครับ ก่อนอื่นต้องขออธิบายคำศัพท์เกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน เพื่อความเข้าใจตรงกันครับ
การสำเร็จยุทธ หมายถึง การที่ผู้เล่นออกจาก 11 สำนักใหญ่ได้โดยปลอดภัย ซึ่งจอมยุทธคนหนึ่งสามารถสำเร็จยุทธได้ 1 หรือ 2 ครั้งเท่านั้นตลอดชีวิต ซึ่งพอจะแบ่งรายละเอียดการสำเร็จยุทธได้ เป็นสี่แบบดังนี้
แบบที่ 1 : ผู้เล่นเริ่มต้นชีวิตจอมยุทธที่สำนักผู้เล่นเลย หลังจากสำเร็จยุทธออกจากสำนักผู้เล่นแล้ว ก็เข้าสังกัดสำนัก npc ซึ่งหลังจากเข้าสำนัก npc ครั้งนี้แล้วผู้เล่นจะไม่สามารถสำเร็จยุทธเป็นครั้งที่สองได้อีก ( ต้องอยู่สำนัก npc ไปตลอด ) ดังนั้นผู้เล่นคนนี้จึงสำเร็จยุทธได้เพียงครั้งเดียว
แบบที่ 2: ผู้เล่นเริ่มต้นที่สำนัก npc หลังจากนั้นก็สำเร็จยุทธออกมา ( เพื่อไปหาเรียนวิชาใหม่ๆ ตามใจชอบ ) หลังจากนั้นก็ตัดสินใจกลับไปเรียนวิทยายุทธต่อที่สำนักเดิม ( ที่ออกมา ) เมื่อผู้เล่นกลับไปเข้าสำนัก npc เดิมแล้วจะไม่สามารถสำเร็จยุทธออกมาได้อีก ( ดังนั้นผู้เล่นคนนี้สำเร็จยุทธได้เพียงครั้งเดียว )
แบบที่3 : ผู้เล่นเริ่มต้นที่สำนัก npc แล้วสำเร็จยุทธออกมา หลังจากนั้นก็ไปเข้าสังกัดสำนักผู้เล่น เมื่อเรียนวิชาของสำนักผู้เล่นจนพอใจแล้ว ( หรือไม่พอใจเจ้าสำนัก ) ก็สามารถสำเร็จยุทธออกมาได้ ( ดังนั้นผู้เล่นคนนี้สำเร็จยุทธได้สองครั้ง )
แบบที่ 4 : ผู้เล่นไม่เคยสังกัดสำนัก npc ใดๆเลย ( ไร้สังกัด ) หลังจากนั้นก็เข้าสังกัดสำนักผู้เล่น A เมื่อพอใจ( หรือไม่พอใจ ) แล้วก็สำเร็จยุทธออกมา ( ถือเป็นสำเร็จยุทธครั้งที่ 1 ) หลังจากนั้นผู้เล่นคนนี้ก็ไปเข้าสังกัดสำนักผู้เล่น B หลังจากนั้นก็สำเร็จยุทธออกมาอีกครั้งจากสำนักผู้เล่น B (ดังนั้นผู้เล่นคนนี้สำเร็จยุทธได้สองครั้ง )
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
ทักษะสำนัก 50
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
ทักษะสำนัก 50
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
กระบี่พื้นฐาน 50
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
ดาบพื้นฐาน 50
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
ทะยานหลบหลีก 50
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
แพทย์พื้นฐาน 40
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
ทักษะสำนัก 50
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
ทักษะสำนัก 50
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 80
??? 50
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
พิษพื้นฐาน 80
กำลังภายในพื้นฐาน 50
ป้องกันทำลายฯ 50
ศิษย์สองกระสอบขึ้นไป
Q: ผู้เล่นจะออกจากสำนัก npc ได้อย่างไร และแต่ละวิธีมีผลต่างกันอย่างไร?
A:ผู้เล่นสามารถออกจากสำนัก npc ได้สองวิธีคือการทรยศสำนักและการสำเร็จยุทธออกมา แต่ละเแบบมีรายละเอียดต่างกันดังนี้
1. การสำเร็จยุทธ : เป็นวิธีออกจากสำนักแบบปลอดภัย ซึ่งแต่ละคนสามารถสำเร็จยุทธได้ 1 หรือ 2 ครั้งตามแต่สถานการณ์ของแต่ละคน ( ดังรายละเอียดการสำเร็จยุทธข้างบน ) หากผู้เล่นถูกไล่ออก จากสำนักก็เท่ากับตัดโอกาสในการสำเร็จยุทธออกไปด้วย หากผู้เล่นถูกไล่ออกจากสำนักอาจจะโดนลงโทษด้วย ( วิทยายุทธลด 1/5 )
2. การทรยศสำนัก หากผู้เล่นเลือกใช้คำสั่งทรยศสำนัก จะโดนลงโทษโดยวิทยายุทธทุกอย่าง (รวมทั้งวิชาพื้นฐาน - นอกจากรู้หนังสือ ) จะลดลง 1/2 การทรยศจะลบประวัติการสำเร็จยุทธทั้งหมดไปด้วย ดังนั้นผู้เล่นจึงยังมีโอกาสในการสำเร็จยุทธเต็มอยู่ ( ถ้าอยากไปเข้าสำนักอื่น )
Q: ผู้เล่นหากจะเข้าสังกัดสำนัก npc จะต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง?
A: เงื่อนไขการเข้าสำนัก npc ขึ้นอยู่กับแต่ละสำนัก ซึ่งจะมีรายละเอียดต่างกันไปเช่น ค่าดีเลว, รังสีอำมหิต และอื่นๆ ตามลักษณะของสำนักนั้นในนิยายของกิมย้ง แต่จะมีเงื่อนไขร่วมที่ทุกสำนัก npc มีเหมือนๆกันคือ
1. หากผู้เล่นตั้งสำนักแล้ว จะไม่สามารถกลับไปเข้าสังกัดสำนัก npc คืนได้
2. ผ่านการสำเร็จยุทธแล้วสองครั้ง อย่างเช่นครั้งแรกเคยเข้าสำนัก npc ก่อนแล้วจึงสำเร็จยุทธออกมา แล้วก็ไปเข้าสังกัดสำนักผู้เล่นหลังจากนั้นก็สำเร็จยุทธออกมา หรือว่าเคยเข้าสำนักผู้เล่นแล้ว สองสำนักและสำเร็จยุทธออกมาทั้งสองครั้ง ทางสำนัก npc จะถือว่าผู้เล่นคนนั้นเจนโลกแล้วจึงไม่รับเข้า ( หรือกลับ ) สำนัก
3. เมื่อผู้เล่นเข้าสังกัดสำนักผู้เล่นแล้วสำเร็จยุทธออกมา หลังจากนั้นก็ไปเข้าสำนัก npc ดังนั้นผู้เล่นจะไม่สามารถสำเร็จยุทธเพื่อออกจากสำนัก npc ได้อีก
Q: การตั้งสำนักเองต้องใช้เงื่อนไขอะไรบ้าง ?
A: อย่างแรกคือผู้เล่นจะต้องผ่านการเป็นปรมาจารย์มาแล้ว ( ได้บัญญัติวิชาและสอนให้ผู้เล่นคนอื่นแล้ว ) นอกจากนั้นยังมีเงื่อนไขอื่นๆอีกคือ
Q: ถ้าผู้เล่นต้องการเข้าสังกัดสำนักผู้เล่นคนอื่นจะต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ?
A: ถ้าไม่ได้สังกัดสำนักใดๆ ก็เพียงแต่ไปติดต่อกับเจ้าสำนัก หรือคนที่มีอำนาจในการรับศิษย์คนอื่นๆของสำนัก แล้วขอเข้าเรียนวิชา ช่วงแรกผู้เล่นจะอยู่ในฐานะนักศึกษาฝึกหัดของสำนักนั้น ( เพื่อลองดูก่อนว่าสำนักนั้นถูกใจเราหรือเปล่า ) หลังจากนั้นอีกสามวันจริง ถ้าหากถูกใจก็สามารถสมัครเข้าเป็นศิษย์สำนักนี้อย่างเป็นทางการได้
Q: เมื่อเข้าสังกัดสำนักผู้เล่นแล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่าสำนักนี้ดีหรือไม่ดีถูกใจเรา แล้วจะจัดการอย่างไร?
A: สามารถลองเข้าสำนักผู้เล่นในฐานะนักศึกษาฝึกหัดเราจะเหมือนอยู่ในช่วงฝึกงาน เพื่อดูสภาพในสำนักว่าถูกใจเราหรือเปล่า ถ้าหลังจากดูลาดเลาแล้วพอใจก็สามารถสมัครเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการของสำนักได้ และในช่วงนักศึกษานี้ถ้าผู้เล่นไม่พอใจก็สามารถออกจากสำนักนั้นได้เลยโดยไม่เสียอะไร แต่ถ้าหากเข้าสำนักอย่างเป็นทางการ ไปแล้วและต้องการจะออก ก็ต้องออกโดยการสำเร็จยุทธหรือทรยศหรือโดนไล่ออกเท่านั้น
Q: การเข้าสำนักผู้เล่นในฐานะผู้สังเกตุการณ์และการเข้าสังกัดอย่างเป็นทางการต่างกันอย่างไร?
A: การเข้าสำนักในฐานะนักศึกษาฝึกหัดสามารถเรียนได้เพียงวิชาพื้นฐานและวิชาที่สำนักนั้นบัญญัติเองบางส่วนเท่านั้น ไม่สามารถเรียนวิชาระดับสูงได้ และไม่สามารถใช้ทักษะสำนักนั้นได้ เช่นแพทย์,พิษ ( ถ้ามี ) นอกจากนี้ระหว่างที่อยู่ในฐานะผู้สังเกตูการณ์จะไม่ถูกนับเป็นสมาชิกของสำนักนั้น จึงสามารถออกจากสำนักนั้นได้เลยโดยไม่ถูกลงโทษและไม่เสียโอกาสในการสำเร็จยุทธ
Q:ผู้เล่นสามารถออกจากสำนักผู้เล่นได้โดยวิธีการอย่างไรบ้าง?
A: การออกจากสำนักผู้เล่นมีสามแบบด้วยกันคือ
Q: จะเข้าสังกัดสำนัก npc หรือว่าจะเข้าสำนักผู้เล่นดี แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ?
A: การอยู่สำนัก npc เป็นเส้นทางที่มั่นคง เมื่อเล่นไปก็สามารถเรียนวิชาขั้นต่อไปได้ตามลำดับขั้นตอน แต่มีข้อเสียคือมีความหลากหลายของวิชาน้อยกว่า , มีตัวเลือกน้อย, มีความอิสระน้อยกว่า
การเข้าสำนักผู้เล่นมีข้อดีคือทำให้ความสัมพันธ์กันระหว่างผู้เล่นมีมากกว่า มีความหลากหลายของวิชามากกว่าและสามารถเรียนวิชาดีๆได้ง่ายกว่าเพราะเมื่อวิชานั้นอยู่ในสำนักผู้เล่นมักใช้เงื่อนไขน้อยกว่าและเร็วกว่า
และผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทางวิทยายุทธได้ตามใจชอบ (เท่าที่สำนักมีให้เรียน) แต่มีข้อเสียคือการเรียนวิชาต่างๆต้องขึ้นอยู่กับเจ้าสำนักหรือผู้ถ่ายทอดวิชา ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ
Q: ผู้เล่นสามารถตั้งสำนักเองได้กี่สำนัก ?
A: ใน ID หนึ่งสามารถสร้างสำนักได้เพียงสำนักเดียว โดยชื่อสำนักต้องไม่ซ้ำกันกับสำนักอื่น การตั้งสำนักเองจะต้องตั้งอย่างจริงจังเพราะถ้าหากสลายสำนักแล้วผู้เล่นทุกคนในสำนักจะ ถูกลดวิทยายุทธ์ลง 1/5
Q: สำนักจะถูกยุบได้อย่างไรบ้าง? ( วิทยายุทธทุกคนในสำนักลด 1/5 )
A: สำนักจะถูกยุบด้วยเงื่อนไขสามแบบคือ
Q: ถ้าเจ้าสำนักไม่ออนไลน์ ผู้เล่นในสำนักคนอื่นทำงานแทนได้หรือไม่ ?
A: เจ้าสำนักสามารถมอบอำนาจให้ผู้เล่นในสำนักคนอื่นทำงานแทนได้
Q: ผู้เล่นจะเป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาได้ต้องมีเงื่อนไขอย่างไร ?
A: ต้องไม่สังกัด 11 สำนัก npc , กำลังภายในพื้นฐาน 60 , วิชาพื้นฐาน 50 ( เช่นกระบี่พื้นฐาน, ดาบพื้นฐาน ) , ทะยานหลบหลีก 50, ป้องกันทำลายกระบวนท่า 50 , ชื่อเสียงและประสบการณ์ยุทธจักร 2,000 , ผ่านการบัญญัติวิชามาแล้ว , สู้จริง 5 ล้าน
เมื่อผู้เล่นสามารถตั้งตัวเป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาได้แล้ว ครั้งแรกจะสามารถรับศิษย์ได้ 5 คน เมื่อชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมาอีก 500 จะสามารถรับศิษย์เพิ่มได้อีก 5 คน....เป็นทำนองนี้ต่อไปเรื่อยๆ อาจารย์ถ่ายทอดวิชาสามารถรับศิษย์ได้สูงสุด 30 คน
* อาจารย์และศิษย์ที่ร่วมกันถ่ายทอดวิชาหากเป็นไร้สังกัดก็สามารถแยกจากกันได้โดยอิสระโดยไม่โดนลงโทษใดๆ แต่หากเป็นการถ่ายทอดระหว่างศิษย์อาจารย์ที่มีสำนักแล้วจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขการเข้าออกสำนัก ( เมืองมีกฏเมือง บ้านมีกฏบ้าน )
Q: เมื่อผู้เล่นสำเร็จยุทธ (หรือทรยศ ) ออกมาจากสำนักแล้วต่อมาตั้งสำนักขึ้นเอง แล้วผู้เล่นแต่ละคน( ที่มาจากต่างสำนัก )จะมีคุณสมบัติต่างกันอย่างไร?
A: ผู้เล่นแต่ละเมื่อตั้งสำนักใหม่จะได้รับคุณสมบัติดังตารางข้างล่าง โดยคุณสมบัติจะแตกต่างกันไปตามสำนัก npc ( หรือไร้สังกัด )ที่ผู้เล่นมีรากฐานมา
ตารางนี้สำหรับผู้เล่นที่ตั้งสำนักใหม่เท่านั้น และ
เมื่อผู้เล่นก่อตั้งสำนักใหม่จะสามารถเลือกลักษณะของทักษะสำนักได้ ( โดยจะได้รับคะแนนเริ่มต้น 10 คะแนน เช่นเลือกทักษะสำนักเป็นสายกระบี่ ก็จะได้รับคะแนนทักษะกระบี่ 10 ) ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะเอาคะแนนนี้ไปใส่ทักษะด้านไหน เพื่อเพิ่มจุดเด่นหรือเพื่อชดเชยจุดด้อย แต่มีกรณีพิเศษคือสำนักเห็งซัวและดาวดึงส์ ซึ่งปกติมีวิทยายุทธ์ที่อ่อนกว่าสำนักอื่นอยู่แล้ว เนื่องจากมีจุดเด่น ด้านการแพทย์และพิษ ถ้าหากผู้เล่นที่จบมาจากสำนักเห็งซัวหรือดาวดึงส์เลือกตั้งสำนักโดยใส่คะแนนทักษะเป็นแพทย์หรือพิษก็สามารถพัฒนาทักษะด้านนั้นของสำนักขึ้นไปได้เรื่อยๆ (สูงสุด 70 ) จนมีทักษะด้าน แพทย์/พิษเทียบเท่าสำนัก npc ได้เช่นกัน ( ดูคำอธิบายข้างล่าง )
ในแต่ละปีเมื่อครบรอบปีของการก่อตั้งสำนัก ในเวลาจื้อยาม ระบบจะเพิ่มคะแนนทักษะสำนักให้ปีละ 5 คะแนน ( เริ่มต้นก่อตั้งสำนักให้ 10 แล้วเพิ่ม ปีละ 5 จนสูงสุด 50 )
แม้ว่าผู้เล่นที่มาจากเห็งซัว/ดาวดึงส์ เมื่อตั้งสำนักเองแล้วค่าคะแนนทักษะวิชาอื่นๆ นอกจากแพทย์/พิษ ( ความแรง-might ) จะเป็น -30 ทั้งหมด แต่สำหรับวิชาที่เรียนมาจากสำนัก npc ค่าความแรงจะไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถ้าไปเรียนวิชาของสำนักอื่นแล้ว ค่าความแรงจะลดลง 3/10 และเช่นกันถ้า ผู้เล่นที่มาจากสำนักอื่นแล้วมาเข้าสำนักที่ตั้งโดยผู้เล่นที่มีรากจากเห็งซัว/ดาวดึงส์ ค่าความแรงวิชาอื่นๆ ( เช่นกระบี่ ) จะลดลง 3/10 เช่นกัน แต่ก็สามารถเรียนวิชาแพทย์/พิษได้ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้เล่นสามารถเน้นสายวิชาได้เพียงสายเดียวคือสายโจมตี , สายแพทย์หรือสายพิษ
Q: เมื่อมีผู้เล่นสำนักฮั้วซัวสำเร็จยุทธออกไปตั้งสำนักเอง แล้วอย่างงั้นผู้เล่นที่ยังอยู่ฮั้วซัวควรจะอยู่สำนักต่อไปหรือออกไปเข้าร่วมสำนักที่ตั้งใหม่นี้ดี ?
A: ในกรณีสมมุติว่ามีสำนักตั้งเองอยู่สองสำนักให้ผู้เล่นที่ยังอยู่สำนักฮั้วซัวตัดสินใจว่าจะเข้าสำนักใด สำนักแรกตั้งจากผู้เล่นที่มีรากมาจากฮั้วซัว ส่วนสำนักที่สองตั้งโดยมีรากจากดาวดึงส์
ผู้เล่นจากฮั้วซัวสำเร็จยุทธออกไปตั้งสำนักเอง ( ได้ทักษะกระบี่ 0 ตามคุณสมบัติสำนัก) แล้วกำหนดทักษะสำนักเป็นกระบี่ ( ได้คะแนนกระบี่ +10 ทันที ) ดังนั้นวิชากระบี่ของสำนักที่ตั้งใหม่นี้จะแรงขึ้นทันที
1/10
ผู้เล่นจากดาวดึงส์สำเร็จยุทธออกไปตั้งสำนักเอง ( ได้ทักษะกระบี่ -30, พิษ 20 ตามคุณสมบัติสำนัก ) แล้วกำหนดทักษะสำนักเป็นทักษะพิษ ( กลายเป็นกระบี่ -30 , พิษ 30 ) สำนักนี้สามารถใช้ทักษะพิษได้
( เพราะทักษะพิษถึง 30 - เมื่อเพิ่มทักษะทุกปีเรื่อยไปจะได้ทักษะพิษสูงสุดเป็น 70 - สามารถใช้พิษทุกอย่างได้เหมือนผู้เล่นสำนักดาวดึงส์ )
ผู้เล่นอีกคนจากฮั้วซัวตัดสินใจสำเร็จยุทธออกมาอีกคน เมื่อไปเข้าสำนักที่กล่าวมาจะมีผลดังนี้
ถ้าเขาไปเข้าสำนักแรกที่มีรากมาจากฮั้วซัว จะได้รับกระบี่แรงขึ้นทันที 1/10 เช่นกัน ( might )
ถ้าเขาไปเข้าสำนักที่สองที่มีรากมาจากดาวดึงส์ จะได้รับกระบี่แรงน้อยลงทันที 3/10 และได้รับทักษะพิษแรงขึ้นทันที 3/10 ตามทักษะสำนัก
แต่ในระยะยาวแล้วไม่ว่าสำนักผู้เล่นหรือสำนัก npc จะไม่มีข้อแตกต่างกัน
ตัวอย่างนี้สามารถใช้เห็งซัวมาแทนดาวดึงส์จะได้ผลเดียวกัน ( เปลี่ยนพิษเป็นแพทย์ )
Q: เมื่อมีแม่ชีเห็งซัวสำเร็จยุทธออกมาตั้งสำนักเอง แล้วแม่ชีที่ยังอยู่ในสำนักเห็งซัวกับ(อดีต)แม่ชีที่ออกมาตั้งสำนักเอง ใครจะเก่งกว่ากัน?
A:ตารางแสดงระดับวิชาแพทย์ของสำนักผู้เล่นที่สำเร็จยุทธมาจากเห็งซัว ( ได้ทักษะแพทย์ +20 , พิษ -50 , วิชาอื่นๆ -30 )
ถ้าเลือกทักษะสำนักเป็นแพทย์ ดังนั้นได้ทักษะแพทย์เริ่มต้นเท่ากับ +30
2. สามารถใช้หม้อปรุงยาพื้นฐานได้
จะเห็นว่าผู้เล่นที่มาจากเห็งซัวเมื่อตั้งสำนักสายแพทย์เอง ช่วงแรกวิชาแพทย์จะด้อยกว่าของสำนักเห็งซัว แต่ว่าทักษะแพทย์จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆทุกปี ( ปีละ +5 ) ดังนั้นในระยะยาว ( ปีที่ 8 หรือ 8 เดือนจริง ) ผู้เล่นสำนักตั้งเองที่มีรากมาจากเห็งซัวกับแม่ชีแท้สำนักเห็งซัวก็ไม่มีความแตกต่างกันทางด้านวิชาแพทย์อีก
1. เมื่อแม่ชี A สำเร็จยุทธมาจากสำนักเห็งซัว แล้วก่อตั้งสำนักเอง ( ได้รับทักษะแพทย์ +20 ตามคุณสมบัติสำนัก ) แล้วกำหนดทักษะสำนักเป็นสายแพทย์ ( ได้ +10 กลายเป็นทักษะแพทย์ +30 ) ดังนั้นสามารถใช้ วิชาแพทย์เห็งซัวได้ทันที ( ถ้าทักษะแพทย์ต่ำกว่า 30 จะเหมือนกับผู้เล่นอื่นที่ไม่ใช่ศิษย์เห็งซัว )
2. เมื่อแม่ชี B สำเร็จยุทธออกมาจากสำนักเห็งซัวอีกคน ถ้าเธอไปเข้าสำนักที่ตั้งโดยแม่ชีเห็งซัวเช่นกัน และได้กำหนดทักษะสำนักเป็นสายแพทย์ ( เช่นตามศิษย์พี่ไปอยู่กับสำนักแม่ชี A ) ดังนั้นเธอสามารถใช้วิชาแพทย์เห็งซัวได้ทันเช่นกัน แต่ถ้าหากแม่ชี B ไปเข้าสำนักผู้เล่นที่มีรากจากเห็งซัวเช่นกัน แต่สำนักนั้นกำหนดทักษะเป็นสายหมัด ดังนั้นแม่ชี B จะได้รับความแรง วิชาสายหมัดแรงขึ้นทันที 1/10 เช่นกัน
3. เมื่อจอมยุทธ C สำเร็จยุทธมาจากฮั้วซัวและต้องการเรียนวิชาแพทย์ ดังนั้นจึงไปเข้าสำนักตั้งเองที่มีรากมาจากเห็งซัวและสำนักนี้กำหนดทักษะเป็นสายแพทย์ ( แถมพัฒนาถึงเต็ม 70 แล้ว ) ดังนั้น จอมยุทธ C สามารถเรียนวิชาแพทย์และสามารถใช้ได้ แต่ว่าจะทำให้ความแรงของวิชาโจมตีอื่นๆลดลง 3/10
4. แม่ชี D สำเร็จยุทธออกมาจากเห็งซัว และอยากจะเรียนวิชาดาบ จึงไปเข้าสำนักผู้เล่นที่มีรากมาจากดาบโลหิต ( ได้ดาบ 0 , หมัด 0 , แพทบ์/พิษ -50 , วิชาอื่น -30 ) สำนักนี้กำหนดทักษะเป็นสายดาบ ดังนั้นแม่ชี D จึงมีทักษะวิชาแพทย์เหมือนกับผู้เล่นที่ไม่ได้อยู่เห็งซัว ( ใช้วิชาแพทย์ไม่ได้ ) แต่จะได้รับความแรงวิชาดาบเพิ่มขึ้นทันที 1/10 ความแรงวิชาหมัดไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนความแรงวิชาอื่นๆจะลด ลง 3/10 ( เพราะทักษะอย่างอื่น -30 หมด )
5.เมื่อทักษะสายแพทย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี ( 8 ปีเต็ม - 8 เดือนจริง ) ก็สามารถใช้วิชาแพทย์และทักษะปรุงยาได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ( ดูตารางความสามารถวิชาแพทย์ข้างบน )
Q: ระหว่างศิษย์ดาวดึงส์ที่สำเร็จยุทธออกไปตั้งสำนักเองและศิษย์ที่ยังสังกัดดาวดึงส์อยู่ใครเก่งกว่ากัน ?
A: ตารางแสดงระดับวิชาพิษของผู้เล่นสำนักตั้งเองที่มาจากดาวดึงส์
เมื่อผู้เล่นดาวดึงส์สำเร็จยุทธไปตั้งสำนักเอง โดยกำหนดทักษะสำนักเป็นพิษ ในช่วงแรกทักษะพิษจะด้อยกว่าผู้เล่นสังกัดดาวดึงส์อยู่ แต่ระดับพิษจะค่อยๆพัฒนาขึ้นเรื่อยๆทุกปี ( ปีละ 5 ) ในระยะยาวสำนักผู้เล่นและศิษย์ดาวดึงส์จึงมีความสามารถด้านพิษไม่ต่างกัน
1. ถ้าจอมยุทธ A สำเร็จยุทธมาจากดาวดึงส์ แล้วต่อมาตั้งสำนักขึ้น ( ได้ทักษะพิษ 20 ,แพทย์ -50 , วิชาสายอื่น -30 ) จะสามารถใช้พิษทั่วไป (เขียว) ได้ และค่าความแรงวิชาที่เรียนมาจากดาวดึงส์จะ ไม่เปลี่ยนแปลง และถ้ากำหนดทักษะสำนักเป็นสายพิษ ( ได้ +10 ) ทำให้ทักษะสำนักพิษเท่ากับ 30 ทำให้สามารถใช้พิษLei Kuchiang ( เหลือง? ) ได้ และในปีต่อๆไปเมื่อทักษะพิษเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจน เต็มก็สามารถใช้พิษได้เหมือนศิษย์ดาวดึงส์ทุกอย่าง ( 8 ปีเต็ม - 8เดือนจริง )
2. ถ้าจอมยุทธ B สำเร็จยุทธออกมาจากดาวดึงส์ แล้วไปเข้าสังกัดสำนักผู้เล่นที่มาจากดาวดึงส์เหมือนกัน จอมยุทธ B สามารถใช้พิษทั่วไปได้ (เขียว) ถ้าสำนักนี้กำหนดทักษะสำนักเป็นสายหมัด ( หมัด +10 ) ดังนั้นจะทำให้วิชาสายหมัดของจอมยุทธ B แรงเพิ่มขึ้น 1/10
3. ถ้าจอมยุทธ C สำเร็จยุทธมาจากฮั้วซัวและอยากเรียนวิชาพิษ และได้เข้าสังกัดสำนักผู้เล่นที่มีรากมาจากดาวดึงส์ ซึ่งสำนักนี้กำหนดทักษะเป็นสายพิษ ( และทักษะพิษเต็ม 70 แล้ว ) ดังนั้นจอมยุทธ C สามารถเรียนและใช้วิชาพิษได้ แต่จะทำให้ความแรงวิชาอื่นๆลดลง 3/10 นอกจากนี้จอมยุทธ C ยังไม่มีกระถางไม้เอาไว้ปรุงพิษอีก ดังนั้นจึงไม่สามารถปรุงยาพิษพื้นฐานและพิษระดับ 1-10 ได้ ดังนั้นจึงได้แต่เรียนวิชาพิษ......
4. จอมยุทธ D สำเร็จยุทธมาจากดาวดึงส์ ต่อมาได้เข้าสังกัดสำนักผู้เล่นที่มีรากมาจากดาบโลหิต ( ได้ทักษะดาบ 0 ,หมัด 0, แพทย์/พิษ -50, วิชาอื่นๆ -30 ) และสำนักนี้กำหนดทักษะเป็นสายดาบ ดังนั้นจอมยุทธ D สามารถใช้พิษทั่วไปได้ และทำให้ความแรงวิชาดาบของจอมยุทธ D แรงขึ้น 1/10 ค่าความแรงวิชาสายหมัดไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนค่าความแรงวิชาสายอื่นๆลดลง 3/10
5. ถ้าผู้เล่นเรียนพิษพื้นฐานมาได้ 120 แล้วเข้าสังกัดสำนักผู้เล่น ระดับของพิษและการต้านพิษของผู้เล่นจะขึ้นอยู่กับระดับทักษะ"พิษ" ของสำนักนั้นร่วมกับระดับพิษพื้นฐานของผู้เล่นเอง
6. เมื่อทักษะสำนักพิษเพิ่มถึง 41 สามารถปรุงยาพิษระดับ 1-10 ได้ตามตาราง
Q: ผู้เล่นที่เข้าสังกัดสำนักตั้งเอง เวลาเรียนวิทยายุทธต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง?
A: ตามปกติแล้วผู้ถ่ายทอดวิชาสามารถกำหนดเงื่อนไขของวิชาที่จะสอนได้เอง แต่สำหรับวิชาระดับสูงขึ้นไประบบจะกำหนดเงื่อนไขขั้นต่ำให้ด้วย ยิ่งวิชาระดับสูงก็ยิ่งมีเงื่อนไขเพิ่มมากขึ้น
For example: Plays family A actual combat 800 ten thousand o'clock, to plays the family B study Taijiquan, can receive this Wugong lowest condition (abundantly to strike wrestles 80 levels, actual combat 800 ten thousand) and plays family B from the condition limit which subscribes, after plays family A to learn, wants to study next set of force Wu Hsueh the actual combat request on by the first set of 800 ten thousand promotion is 1,300 ten thousand, the supposition plays family A continuously arrives actual combat 1,500 o'clock only then looks plays family C study the Dugu nine swords, the next set of requests actual combat can increase is 2000 ten thousand. To this analogizes, always studies is same, then needs to increase the original actual combat empirical value 500 ten thousandตัวอย่าง :
Q:ผู้เล่นสามารถเข้าสังกัดสำนักตั้งเองได้กี่สำนัก แล้วจะสามารถเน้นทักษะได้ครบทุกสาย ( โจมตี , แพทย์ , พิษ ) ได้หรือไม่ ?
A: ไม่ได้ เพราะการเรียนทักษะให้เก่งได้ทั้งสายโจมตี ,สายแพทย์, สายพิษ ทำได้ลำบากเพราะว่าแต่ละสำนักสามารถเน้นทักษะได้เพียงด้านเดียว ดังนั้นถ้าสำนักสายโจมตีก็ไม่สามารถเน้นวิชาสายแพทย์ได้ และถ้าเน้นสายแพทย์หรือพิษ ทักษะโจมตีก็น้อยลง แม้แต่ผู้เล่นไร้สังกัดก็ไม่สามารถเน้นทักษะทั้งสามสายพร้อมกันได้
การฝึกวิทยายุทธควรเน้นให้แตกฉานในด้านใดด้านหนึ่ง
Contact: webmaster@jyguide.com , jyguide@yahoo.com
ข้อมูลเกมส์มังกรหยกออนไลน์: 100 % Un-official
CSS dedicated site
ขอขอบคุณข้อมูลจากจอมยุทธทุกท่าน